รายงานการพัฒนาหมู่บ้าน (Village Development Report : VDR)
บ้านหนองยาว หมู่ที่ 7 ตำบล กระหาด อำเภอ จอมพระ จังหวัด สุรินทร์
2. สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
2.1 ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านหนองยาว หมู่ที่ 7 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ปี 2475 บ้านหนองยาวเป็นส่วนหนึ่งของบ้านกระหาด หมู่ 2 ตำบลกระหาด มีนายยังสุขสนิท และนายปานสุขสนิท แยกครอบครัวมาตั้งถิ่นฐาน ทำมาหากินเมือปี 2522 และมีหลังคาเรือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถตั้งเป็นหมู่บ้าน โดยแยกจากบ้านเดิม คือบ้านกระหาด และก่อตั้งเป็นบ้านหนองยาว หมู่ที่ 7 ตำบลกระหาดในปัจจุบัน บ้านหนองยาว ตั้งชื่อตามหนองน้ำที่มีขนาดยาว บ้านหนองยาวเป็นแหล่งพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จึงบุคคลเข้ามาตั้งบ้านเรือนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยมี นายไพร สุขสนิทเป็นผู้ใหญ่คนแรกของหมู่บ้าน
2.2 ที่ตั้ง/ลักษณะภูมิประเทศ/ทรัพยากรของหมู่บ้าน
ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบดินละเอียด พื้นล่างเป็นดินลูกรังและหินดาน บางแห่งเป็นดินทรายพื้นที่ มีเนื้อประมาณ 1,118 ไร่ที่อยู่ 63ไร่ การเกษตร/อื่นๆ 865ไร่ที่ตั้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของอำเภอ จอมพระ ห่างจากอำเภอ ระยะทาง 10 กม. จากจังหวัด ประมาณ 39 กิโลเมตร
แหล่งทรัพยากรน้ำ
หมู่บ้านมีแหล่งน้ำ ที่สำคัญ 2 แห่ง คือ
ชื่อหนองยาว พื้นที่ 13 ไร่ มีน้ำใช้ 12 เดือนใน 1 ปี
ชื่อคลองส่งน้ำ พื้นที่ 20ไร่ มีน้ำใช้ 12 เดือนใน 1 ปี
อาณาเขต
• ทิศเหนือ ติดกับบ้านสมบูรณ์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมแสง อำเภอจอมพระ
จังหวัดสุรินทร์
• ทิศใต้ ติดกับบ้านกันโจรง หมู่ที่ 1 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
จังหวัดสุรินทร์
• ทิศตะวันออก ติดกับบ้านกระหาด หมู่ที่ 2 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
จังหวัดสุรินทร์
• ทิศตะวันตก ติดกับบ้านอันโนง หมู่ที่ 3 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
จังหวัดสุรินทร์
การคมนาคม มี 1 เส้นทาง
1) ทางหลวงสร หมายเลข 3099 สายบ้านบะ
สภาพภูมิอากาศ
บ้านหนองยาว ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พัดพาเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา และยังได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ พัดเอาฝนและความชื้นเข้ามา ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในรอบปีที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ
1) ฤดูฝน อยู่ช่วง เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมที่ก่อให้เกิดฝนตกทั่วประเทศ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100 – 1,300 มิลลิลิตร/ปี และอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส
2) ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมกราคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่พัดเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส
3) ฤดูร้อน อยู่ในช่วง เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนพัดมาจากทะเลจีนใต้ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส และจะสูงสุดปลายเดือนเมษายน
2.3 จำนวนครัวเรือนและประชากร
แบ่งออกเป็นคุ้ม/กลุ่ม 3 คุ้ม รวม 51 หลังคาเรือน ประชากรทั้งหมด 51 ครัวเรือน ชาย 97 คน หญิง 99 คน รวม 196 คน
ประชากรตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 จำนวน 51 ครัวเรือน ชาย 97 คน หญิง 99 คน รวม 196 คน สรุปผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน ระดับหมู่บ้าน (จปฐ.2) พ.ศ. 2551 ผ่านเกณฑ์ 37 ตัวชี้วัด ไม่ผ่านเกณฑ์ 3 ตัวชี้วัด (ตัวชี้วัดที่ 20,33,35) ไม่มีข้อมูล 2 ตัวชี้วัด (ตัวชี้วัดที่ 25,26)
ลักษณะประชากร (จำนวนร้อยละของประชากร)
ตามช่วงอายุ ชาย หญิง จำนวนคน ร้อยละ
น้อยกว่า 1 ปีเต็ม 2 2 4 2.04
1 ปีเต็ม – 2 ปี 3 2 5 2.55
3 ปีเต็ม – 5 ปี 9 4 13 6.63
6 ปีเต็ม – 11 ปี 16 9 25 12.75
12 ปีเต็ม – 14 ปี 13 9 22 11.22
15 ปีเต็ม – 17 ปี 1 2 3 1.53
18 ปีเต็ม – 49 ปี 28 42 70 35.71
50 ปีเต็ม – 60 ปี 12 12 24 12.24
มากกว่า 60ขึ้นไป ปีเต็ม 13 17 30 15.30
รวมทั้งหมด 97 99 196 100
หมู่บ้านหนองยาว มีจำนวนประชากร 196 คน อายุส่วนใหญ่อยู่ในช่วง18 ปีเต็ม – 49 ปี
คิดเป็นร้อยละ 35.71
2.4 สภาพทางเศรษฐกิจ(รายได้ รายจ่าย เงินออม การประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์)
ข้อมูลรายได้ ตาม จปฐ. ปี 2551
รายได้ (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ภาคเกษตร-ด้านพืช
ปลูกพืช ไว้ขาย 2,148,000.00
ไว้กิน 467,000.00
รวม 2,615,000.00 27.58% 51,274.51 13,341.84
ทำสวน ไว้ขาย 93,900.00
ไว้กิน 85,700.00
รวม 179,600.00 1.89% 3,521.57 916.33
ทำไร่ ไว้ขาย 205,300.00
ไว้กิน 32,500.00
รวม 237,800.00 2.51% 4,662.75 1,213.27
ทำสวนไม้ดอก ไว้ขาย 1,500.00
ไว้ใช้ 4,500.00
รวม 6,000.00 0.06% 117.65 30.61
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านพืช 3,038,400.00 32.04% 59,576.47 15,502.04
ภาคเกษตร-ด้านสัตว์
เลี้ยงสัตว์ ไว้ขาย 1,267,800.00
ไว้กิน 410,590.00
รวม 1,678,390.00 17.70% 32,909.61 8,563.21
ทำประมง ไว้ขาย 266,500.00
ไว้กิน 241,200.00
รวม 507,700.00 5.35% 9,954.90 2,590.31
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านสัตว์ 2,186,090.00 23.05% 42,864.51 11,153.52
แปรรูปผลผลิต
ผลผลิตแปรรูป ไว้ขาย 241,300.00
ไว้กิน 122,000.00
รวม 363,300.00 3.83% 7,123.53 1,853.57
รวมรายได้จากการแปรรูปผลผลิต 363,300.00 3.83% 7,123.53 1,853.57
รายได้ที่เป็นตัวเงิน
เงินเดือน/ค่าจ้าง 1,294,400.00 13.65% 25,380.39 6,604.08
รายได้จากค้าขาย 1,385,850.00 14.62% 27,173.53 7,070.66
รายได้จากประกอบธุรกิจ 4.00 0.00% 0.08 0.02
รายได้อื่นๆ 1,214,100.00 12.80% 23,805.88 6,194.39
รวมรายได้ที่เป็นตัวเงิน 3,894,354.00 41.07% 76,359.88 19,869.15
รวมรายได้ทั้งหมด 9,482,144.00 100.00% 185,924.39 48,378.29
จากตารางแสดงรายได้ของประชากร ตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 จะเห็นได้ว่า
บ้านหนองยาว มีรายได้ เฉลี่ยต่อคนต่อปี (ข้อมูล จปฐ. ปี 2551) เป็นเงิน 48,378.29 บาท รายได้เฉลี่ยเกิน 23,000 บาท/คน/ปี มีจำนวน 51 หลังคาเรือน คิดเป็น 100%
การประกอบอาชีพ
ลักษณะอาชีพ
1. อาชีพทำการทำนา จำนวน 48 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 94.11
2. ทำสวน/ทำไร่ จำนวน 2 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 3.92
3. อาชีพเลี้ยงสัตว์ จำนวน 42 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 82.35
4. อาชีพรับจ้าง จำนวน 45 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 88.23
5. อาชีพรับราชการ จำนวน 3 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 5.88
จากข้อมูล การประกอบอาชีพ บ้านหนองยาว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 94.11
รายได้จากการประกอบอาชีพ
1. การทำนา จำนวน 2,615,000 บาท/ปี ร้อยละ 27.58%
2. การทำสวน จำนวน 179,600 บาท/ปี ร้อยละ 1.89%
3. การทำไร่ จำนวน 237,800 บาท/ปี ร้อยละ 2.51%
5. การเลี้ยงสัตว์ จำนวน 1,678,390 บาท/ปี ร้อยละ 17.70%
5. การทำสวนไม้ดอก จำนวน 6,000 บาท/ปี ร้อยละ 0.06%
5. การทำประมง จำนวน 507,700 บาท/ปี ร้อยละ 5.35%
6. การแปรรูปผลผลิต จำนวน 363,300 บาท/ปี ร้อยละ 3.83%
7. รายได้ที่เป็นตัวเงิน จำนวน 3,894,354 บาท/ปี ร้อยละ 41.07%
รวมรายได้ทั้งหมด จำนวน 9,482,144 บาท/ปี
ตารางข้อมูลรายจ่าย หนี้สิน เงินออม ตาม จปฐ. ปี 2551
ข้อมูลรายจ่าย ตาม จปฐ. ปี 2551
รายจ่าย (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต
ก. พันธุ์พืช-สัตว์ 55,770.00 1.59% 1,093.53 284.54
ข. สารเคมี 230,085.00 6.56% 4,511.47 1,173.90
ค. ค่าจ้าง 407,900.00 11.63% 7,998.04 2,081.12
ง.เครื่องจักร 142,900.00 4.08% 2,801.96 729.08
รวม 836,655.00 23.86% 16,405.00 4,268.65
ค่าใช้จ่ายในการอุปโภคและบริโภค
ซื้อข้าวสาร 16,720.00 0.48% 327.84 85.31
ซื้ออาหารที่จำเป็น 512,900.00 14.63% 10,056.86 2,616.84
ซื้อขนม 436,875.00 12.46% 8,566.18 2,228.95
เสื้อผ้า 96,255.00 2.75% 1,887.35 491.10
ที่อยู่อาศัย 8,000.00 0.23% 156.86 40.82
ค่ารักษาพยาบาล 57,560.00 1.64% 1,128.63 293.67
ด้านการศึกษา 209,390.00 5.97% 4,105.69 1,068.32
น้ำมันรถ-ค่าโดยสาร 379,080.00 10.81% 7,432.94 1,934.08
ค่าน้ำ-ค่าไฟ 130,000.00 3.71% 2,549.02 663.27
ค่าโทรศัพท์ 52,344.00 1.49% 2,260.00 267.06
ใช้จ่ายส่วนบุคคล 161,950.00 4.62% 3,175.49 826.28
ค่าบันเทิง 12,850.00 0.37% 251.96 65.56
ค่าบุหรี่-สุรา 114,700.00 3.27% 2,249.02 585.20
อื่นๆ 480,650.00 13.71% 9,424.51 2,452.30
รวม 2,669,274.00 76.14% 52,338.71 13,618.74
รวมรายจ่ายทั้งหมด 3,505,929.00 100.00% 68,743.71 17,887.39
หนี้สินจากบัญชีครัวเรือน 3,060,100.00 60,001.96 15,612.76
เงินออมจากบัญชีครัวเรือน 108,660.00 2,130.59 554.39
จากข้อมูล จปฐ. ปี 2551 พบว่า คนบ้านหนองยาวมี
รายจ่าย เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 17,887.39 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 68,743.71 บาท
หนี้สินจากบัญชีครัวเรือน เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 15,612.76 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 60,001.96 บาท
เงินออม เฉลี่ย/คน/ปี เป็นเงิน 554.39 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 2,130.59 บาท
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
ชื่อสินค้า ผ้าไหมยกดอก ยกดอก 27 ตะกอ
ผลิตโดย นางสาวธัญชนก แสนกล้า
รายละเอียดสินค้า เป็นผ้าไหมยกดอกทอมือ ซึ่งมีลักษณะย้อม 2 ประเภทคือ สีเคมีและสีธรรมชาติ
ปริมาณการผลิต/เดือน 10 เมตร/เดือน
ชื่อสินค้า ผ้าไหมมัดหมี่
ผลิตโดย นางสุนิสา สุขยา
รายละเอียดสินค้า เป็นผ้าไหมมัดหมี่พื้นเมืองสุรินทร์ ย้อมสีธรรมชาติ
ปริมาณการผลิต/เดือน 10 ผืน/เดือน
ชื่อสินค้า ผ้าไหมคลุมไหล่
ผลิตโดย นางอำไพ สุขสนิท
รายละเอียดสินค้า เป็นผ้าไหมที่ย้อมสีธรรมชาติ และดัดแปลงเป็นผ้าคลุมไหล่ที่ทำจากผ้าไหม ทอด้วยฝีมือชาวบ้าน
ปริมาณการผลิต/เดือน 10 ผืน/เดือน
2.5 สภาพทางสังคม
ภาษาพูดและศาสนา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ ภาษาส่วย , ภาษาเขมร และภาษาพื้นเมืองอีสาน (ลาว) นับถือศาสนาพุทธ
สภาพบ้านเรือนมีความมั่นคงถาวร มีการจัดบ้านเรือนเป็นระเบียบถูกสุขลักษณะ ครอบครัวมีความอบอุ่น ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ข้อมูลบริการขั้นพื้นฐานของชุมชน
1.โรงเรียนประถม จำนวน - แห่ง
2.โรงเรียนระดับมัธยม จำนวน - แห่ง
3. วัด /สำนักสงฆ์/ที่พักสงฆ์ จำนวน - แห่ง ใช้บริการที่วัดประทุมทองบ้านกระหาด
4. สถานีอนามัย จำนวน - แห่ง ใช้บริการที่ หมู่ 2 บ้านกระหาด
5. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน - แห่ง ใช้บริการที่ หมู่ 2 บ้านกระหาด
6. โทรศัพท์สาธารณะ จำนวน 3 แห่ง ใช้บริการในหมู่บ้าน
หมู่บ้านหนองยาว เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก การศึกษา (ระบุว่ามีโรงเรียนในหมู่บ้านหรือไม่มี และถ้าไม่มีเดินทางไปศึกษาที่ไหน) ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนประถมบ้านอันโนง หมู่ 3 ตำบลกระหาด โรงเรียนมัธยมบ้านขาม
ขนบธรรมเนียม ความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณี
1. ประเพณีบุญข้าวจี่ เป็นการนำข้าวเหนียวที่ปั้นโรยเกลือทาไข่ไก่ แล้วจี่ไฟให้สุกการทำบุญมีให้ทานข้าวจี่เป็นต้น การทำบุญข้าวจี่มีผู้นิยมทำกันมาก เพราะมีความเชื่อว่าได้บุญกุศลมาก เพราะเป็นการละทานชนิดหนึ่ง เวลาทำกำหนดเอาเดือนสาม จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสาม
2. ประเพณีบุญพระเวส บุญที่มีการเทศน์พระเวส หรือมหาชาติ บุญพระเวสกำหนดทำเดือนสี่ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสี่
3. ประเพณีบุญสรงน้ำ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์หรือผู้หลักผู้ใหญ่ หรือการสรงน้ำ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตรุษสงกรานต์ หรือบุญเดือนห้า
4. ประเพณีบุญเข้าพรรษา โดยปกติกำหนดเอาวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 จะมีการแห่เทียน ถวายผ้าอาบน้ำฝน และไปทำบุญที่วัด
5. ประเพณีบุญข้าวสาก หรือบุญเดือนสิบ จะมีการรวมญาติพี่น้อง ไหว้บรรพบุรุษ เลี้ยงอาหารระหว่างญาติพี่น้อง และมีการไปทำบุญตักบาตรที่วัด
6. ประเพณีออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เช้ามืดพระสงฆ์จะไปรวมกันที่โบสถ์เพื่อแสดงอาบัติแล้วทำวัตรเช้า พอรุ่งเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร
7. ประเพณีพลอง จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 จัดขึ้นเพื่อการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ ไปแล้ว โดยการนำเอาข้าวหลามและขนม ข้าวต้มไปทำบุญที่วัด
8. ประเพณีเซ่นปู่ตา จะจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 จัดขึ้นเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เคยล่วงเกินในช่วงที่ไปทำนาในฤดูกาลที่ผ่านมา
9. ประเพณีรำแม่มด เป็นประเพณีที่เป็นความเชื่อของชาวบ้านในเรื่องของการช่วยให้คนไข้หาย จากการเจ็บป่วย โดยการจัดพิธีกรรมแล้วจะมีแม่หมอมาเข้าทรงแล้วก็จะไถ่ถามแม่หมอว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้เจ็บป่วย และ จะให้ทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร จากนั้นญาติของผู้ป่วยก็จะไปดำเนินการตามที่แม่หมอได้บอกมา
10. ประเพณีแห่นาค ตัวของนาคจะต้องมีการแต่งหน้าทาแก้มแดง พาดด้วยผ้าสีสด คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงินสีเหลืองและจะต้องสวมชฎาการสวมชฎาหมายถึง หัวของนาคที่เป็นสัตว์ที่ต้องการบวชในพระพุทธศาสนา ส่วนการที่ต้องแต่งหน้านาคให้เหมือนผู้หญิงเพื่อให้หญิงคนรักของนาคดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย เพราะผู้หญิงนั้นจะอยู่ใกล้กับพระไม่ได้ การแห่นาคก็แห่ด้วยช้าง รถยนต์ หรือยานพาหนะอื่นๆ ตามแต่ฐานะของ ผู้บวช
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ด้านประเพณีวัฒนธรรม ผู้สืบทอดมี นายทุม เสนาบูรณ์
2. ด้านหมอชาวบ้าน ผู้สืบทอดมี นายนิยม แสนกล้า
3. ด้านจักรสาร ผู้สืบทอดมี นายแฮม แสนกล้า
2.6 สถานที่ท่องเที่ยว/ทรัพยากรธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อม
ป่าชุมชนหนองเสม็ด
2.7 กลุ่ม/องค์กรที่สำคัญ และมีกิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่อง
1. กองทุนหมู่บ้านหนองยาว ประธานชื่อนายบำเน็จ สายน้อย จำนวนสมาชิก 65 คน เงินทุน 2,000,000 บาท กรรมการกองทุน 9 คน กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย ฝากออม ปล่อยกู้ ติดตามผลการดำเนินงานของสมาชิก
3. กลุ่มศูนย์สาธิตเพื่อการผลิต ประธานชื่อนายบำเน็จ สายน้อย จำนวนสมาชิก 52 คน เงินทุน 30,000 บาท กรรมการกองทุน 9 คน กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย เป็นทุนหมุนเวียน จัดสรรแบ่งปันผลกำไรให้แก่สมาชิก
2. กลุ่มอาชีพทอผ้า จำนวนสมาชิก 20 คน เงินทุน 50,000 บาท กรรมการ 15 คน กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วยการทอผ้า ไว้เพื่อจำหน่ายเสริมรายได้กับครัวเรือน
4. กลุ่มป่าชุมชน ประธานชื่อนายทุม เสนาบูรณ์ จำนวนสมาชิก 100 คน เงินทุน 200,000บาท กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วย อนุรักษ์ป่าและพันธุ์สัตว์ป่าไว้ให้คงอยู่ตลอดไป กิจกรรมบวชป่า
5. กลุ่มเลี้ยงโค – กระเบือ ประธานชื่อ นายเอือม สายกระสุน จำนวนสมาชิก 15 คน เงินทุน 20,000 บาท กรรมการกองทุน 15 คน กิจกรรมของกลุ่มที่สำคัญ ประกอบด้วยเลี้ยงโค – กระเบือไว้เพื่อเลี้ยงจำหน่ายเสริมรายได้ให้กับครัวเรือน
ผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย พ.ศ. 2549
ได้ระดับ 3 ดาว จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน (อย. มผช.ฯลฯ)คือ ผ้าลายขัดพื้นฐาน
องค์กรในหมู่บ้านมี 12 องค์กร
คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
อาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 5 คน
อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) จำนวน 3 คน
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน 5 คน
อาสาสมัครพัฒนาสังคม จำนวน 2 คน
ภูมิปัญญาท้องถิ่น / ปราชญ์ชาวบ้าน จำนวน 2 คน
อาสาสมัครเกษตร / กรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 1 คน
สมาชิก อบต. ในหมู่บ้าน จำนวน 2 คน
อาสาสมัครตำรวจบ้าน จำนวน 5 คน
อาสาสมัครปศุสัตว์ จำนวน 1คน
หมอดินอาสา จำนวน 2 คน
3. การประเมินสถานการณ์พัฒนาหมู่บ้าน
3.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน(กชช.2ค) ปี 2550
บ้านหนองยาว ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช.2 ค) ปี 2550 จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 51 ครัวเรือน ราษฎร 196 คน สรุปผลการประเมินที่สำคัญ ดังนี้
ระดับการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
ตัวชี้วัดที่มีปัญหา มีตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรง ที่หมู่บ้านกำลังประสบอยู่ จำนวน 4 ตัวชี้วัด เรียงตามลำดับจากจำนวนหมู่บ้านที่ประสบปัญหาจำนวนมากไปหาน้อย ดังนี้
ลำดับปัญหา ดัชนีชี้วัด(เลขลำดับ) สภาพปัญหา
ระดับ หมายเหตุ
1 ผลผลิตจากการทำไร่ (11) 1 1 - ปัญหามาก
2 การประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน (13) 1 1 - ปัญหามาก
3 การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชน (26) 1 1 - ปัญหามาก
4 คุณภาพดิน (27) 1 1 - ปัญหามาก
5 การติดต่อสื่อสาร (7) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
6 ผลผลิตจากทำนา (10) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
7 การป้องกันโรคติดต่อ (16) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
8 การกีฬา (17) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
9 ระดับการศึกษาของประชาชน (19) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
10 การปลูกป่าหรือไม้ยืนต้น (29) 2 2 -ปัญหาปานกลาง
แนวทางการพัฒนา จากสภาพปัญหารุนแรงที่หมู่บ้านประสบอยู่ที่สำคัญ 4 ลำดับแรก หมู่บ้านได้กำหนดแนวทางการพัฒนา ดังนี้
1. ปัญหาผลผลิตจากการทำไร่ (ข้อ 11) ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรงอันดับที่ 1 หมู่บ้าน ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาวิธีการเพิ่มผลผลิตจากการทำไร่ และลดต้นทุนการผลิต และได้รวมกลุ่มประชาชนในหมู่บ้านผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ ลดการใช้สารเคมีทุกชนิด
2. ปัญหาการประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน (ข้อ 13) เป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรงอันดับที่ 2 หมู่บ้าน ได้ส่งเสริมพัฒนาการในด้านการประกอบอาชีพในครัวเรือน โดยให้การฝึกอบรมการประกอบอาชีพเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน/ชุมชน
3. ปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชน (ข้อ 26) เป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรง อันดับที่ 3 หมู่บ้านได้กำหนดแนวทาง การพัฒนาโดยการส่งเสริมให้หมู่บ้าน/ชุมชน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในชุมชน เช่น การประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านประจำเดือน/ปี อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อชุมชนจะได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ประชาสัมพันธ์การเข้าถึงแหล่งทุน และถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง หรือการฝึกอบรมเพิ่มพูนประสิทธิภาพคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ในชุมชนให้มีขีดความสามารถในการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ และสถาบันการเงินชุมชนให้เกิดขึ้นในชุมชน
4. ปัญหาคุณภาพของดิน (ข้อ 27) ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่หมู่บ้านประสบปัญหารุนแรงอันดับที่ 4 หมู่บ้านได้ดำเนิน การพัฒนาและปรับปรุงบำรุงดิน รวมทั้งการงด ลดการใช้สารเคมีและสารพิษ ของเกษตรกร เนื่องจากสภาพดินในพื้นที่อำเภอจอมพระ เป็นดินทราย ดินเปรี้ยว ดินเค็ม และเป็นดินที่ขาดการบำรุง หรือปรับคุณภาพดิน
3.2 ผลการวิเคราะห์ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2551
ผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบ้านหนองยาว ตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 พบว่า ประชาชนบรรลุเกณฑ์ชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน จำนวน 34 ตัวชี้วัด ไม่บรรลุเกณฑ์ชี้วัด 8 ตัวชี้วัด ไม่มีข้อมูล 0 ตัวชี้วัด
การวิเคราะห์ข้อมูล จปฐ. ปี 2551 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ด้วยโปรดแกรม ALYUDA FORECASTER XL
ตัวชี้วัดข้อ 33 คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ ของครัวเรือนในหมู่บ้านหนองยาว
ตัวชี้วัดที่เป็นตัวแปรต้นที่นำมาวิเคราะห์ คือ
1. ตัวชี้วัดข้อ 30 คนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาท/ปี
2. ตัวชี้วัดข้อ 32 คนในครัวเรือนไม่ติดสุรา
3. ตัวชี้วัดข้อ 35 คนอายุ 6 ปี ขึ้นไปทุกคนปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
Input Importance Table
Input Value, %
ปฏิบัติกิจกรรมศาสนา 95.09
ไม่ติดสุรา 0.875
มีรายได้ไม่ต่ำกว่า23,000 4.035
จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตัวชี้วัดที่ 33 เรื่อง คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ มากที่สุดเป็นลำดับแรก คือ ตัวชี้วัดข้อ 35 คนอายุ 6 ปี ขึ้นไปทุกคนปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ค่าน้ำหนักอยู่ที่ 95.09% ตัวชี้วัดรองลงมา คือ ตัวชี้วัดข้อ 30 คนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาท/ปี ค่าน้ำหนักอยู่ที่ 4.035% และตัวชี้วัดข้อ 32 คนในครัวเรือนไม่ติดสุรา ค่าน้ำหนักอยู่ที่ 0.875%
จากการหาความสัมพันธ์ ที่มีผลกระทบต่อคนในครัวเรือน ไม่สูบบุหรี่ คือ คนอายุ 6 ปี ขึ้นไปทุกคนปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งมีค่าน้ำหนักสูงสุดไปในทิศทางเดียวกัน กับคนในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 23,000 บาทต่อปี ส่วนคนในครัวเรือนไม่ติดสุรา ของหมู่บ้าน มีผลกระทบต่อคนในครัวเรือนของหมู่บ้านนี้น้อยมาก
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข คือ
1. ส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือน เพื่อวางแผนชีวิต
2. ส่งเสริมให้มีอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้จากอาชีพหลักคือทำนา
3. ส่งเสริมให้มีการรณรงค์เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดให้โทษแก่ประชาชน
4. ลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน โดยการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ไว้กินเป็นอาหาร เหลือไว้ขาย
4. แนวโน้ม/ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
4.1 ศักยภาพของหมู่บ้าน
1. เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ / ปลูกผักสวนครัว
2. มีการพัฒนาดินโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
3. มีป่าชุมชนและการปลูกป่า
4. มีการเลี้ยงโค – กระบือ ทุกหมู่บ้าน
5. มีแหล่งทุนชุมชนทุกหมู่บ้าน
6. มีแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม การทอผ้า ฯลฯ
7. มีแหล่งน้ำการเกษตร
8. ภาคีมีส่วนร่วมกิจกรรมทุกระดับ
9. การคมนาคมสะดวก
10. การอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชน
11. มีกลุ่มองค์กรต่างๆที่เข้มแข็ง
12. มีผลิตภัณฑ์ชุมชนดีเด่น
13. มีปราชญ์ชาวบ้าน
14. มีสถาบันการเงิน
4.2 ปัญหาที่สำคัญของหมู่บ้าน
1. คุณภาพดินมีปัญหา ด้านดินเสื่อมสภาพ
2. ต้นทุนการผลิตสูง
3. มีการอพยพแรงงานในช่วงนอกฤดูทำนาสูง ไม่มีคนอยู่ในหมู่บ้าน
4. ชาวบ้านมีหนี้สินมาก
5. ขาดการบริหารจัดการเงินทุนชุมชน
6. ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสไม่มีงานทำ
7. ครัวเรือนมีหนี้สิน ประมาณ 48 ครัวเรือน เป็นเงิน 3,060,100 บาท
8. ครัวเรือนมีการใช้ยาไม่ถูกต้อง ประมาณ 1 ครัวเรือน
9. ครัวเรือนถูกรบกวนจากมลพิษ
10. ครัวเรือนมีการป้องกันอุบัติภัยไม่ถูกต้อง
11. ชาวบ้านมีหนี้สินมาก
12. แหล่งน้ำมีน้ำไม่เพียงพอตลอดทั้งปี
13. ขาดคุณธรรม จริยธรรม
14. ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง
15. คนในครัวเรือนติดสุรา จำนวน 30 คน
4.3 ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน และวิธีการแก้ไขปัญหา
สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน วิธีการแก้ไขปัญหา
ไม่มีอาชีพเสริมหลังฤดูเก็บเกี่ยว/ปัญหาการว่างงาน ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในการประกอบอาชีพ ทำให้ชุมชนไม่มีรายได้เสริมหลังจากการเก็บเกี่ยวทำให้เกิดการว่างงานขาดรายได้ รวมกลุ่มประกอบอาชีพ และระดมทุนในชุมชนและหน่วยงานราชการเพื่อให้เกิดรายได้
แหล่งน้ำ
ขาดแคลนแหล่งน้ำที่ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค/น้ำตื้นเขิน/แหล่งน้ำอยู่ในที่ลุ่มไม่สามารถนำมาใช้ที่ดอนเพื่อการเกษตรได้ และเกิดปัญหาภัยธรรมชาติ ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำการเกษตร และน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคก็ไม่เพียงพอ อยากให้มีงบสนับสนุนขุดลอกห้วยหนองน้ำ และการทำฝายกักเก็บน้ำในคลองต่างๆ
ด้อยโอกาสทางการศึกษา
ครอบครัวอยากจนขาดรายได้ไม่เพียงพอต่อครอบครัว ทำให้เยาวชน/ประชาชนขาดความรู้ในเรื่องต่างๆ หน่วยงานการศึกษาเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความสำคัญในการศึกษาภาคบังคับ/ระดับสูงขึ้นไป
งบสนับสนุน งบสนับสนุนน้อยต่อการทำงานต่างๆ ในหลายๆ ส่วน การทำงานอาจจะต้องใช้งบโดยจำเป็น โดยงบการทำงานไม่พอต่อการดำเนินงาน ควรมีงบสนับสนุนมากๆ เพื่อที่จะนำมาช่วยในการทำงานของส่วนต่างๆ
ปัญหาหนี้สินและยากจน
ชาวบ้านมีหนี้สินมาก ไม่มีเงินที่จะใช้หนี้เพราะไม่มีการทำโครงการแบบระบบหมุนเวียรเพื่อจะได้นำเงินมาใช้หนี้สินและได้มีรายได้ ควรหาเงินมาลงทุนทำโครงการใดๆ ก็ได้ที่คิดว่าจะมีรายได้ดีและพอที่จะใช้หนี้สินที่ตนเองกู่หรือยืมมา
การทำโครงการต่าง ๆ
ไม่มีหลักการที่ดีพอในการทำโครงการ ไม่รู้วิธีการดำเนินงาน ต้องมีแผนการหรือรูปแบบการทำงานนั้นเอง ควรมีต้นแบบในการทำโครงการและควรมีการวางแผนก่อนการทำงาน
5. กิจกรรม/โครงการและผลการพัฒนาหมู่บ้านในรอบปีที่ผ่านมา ( ต.ค. 50 - ก.ย.51)
5.1 สรุปกิจกรรมการพัฒนาในรอบปีที่ผ่านมา บ้านหนองยาว หมู่ที่ 7 ตำบล กระหาด อำเภอ จอมพระ
ชื่อกิจกรรม / โครงการ ดำเนินการ
ระหว่าง ลักษณะของกิจกรรม เจ้าของ
งบประมาณ งบประมาณ
1. โครงการสร้างถนนคอนกรีตรอบหมู่บ้าน เม.ย.-พ.ค. 50 ถ่มดินสร้างถนนคอนกรีตรอบหมู่บ้าน อบต. 90,000
2. โครงการเลี้ยงปลา-ในบ่อซีเมนต์และบ่อพลาสติก พ.ค.-มิ.ย. 50 เลี้ยงไว้บริโภคในครัวเรือน เหลือจำหน่าย อบต. 20,000
3. โครงการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ ตลอดปี ปลูกไว้เพื่อบริโภคในครัวเรือน และเพื่อลดรายจ่าย สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน พัฒนาชุมชน 2,000
4. การแข่งขันกีฬาตำบล ต.ค. 50 แข่งกีฬาเยาวชน อบต. 10,000
5. การพัฒนาหมู่บ้าน พ.ย. 50 การทำความสะอาดหมู่บ้าน ชาวบ้าน 5,000
6. พ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย ธ.ค. 50 ทำลายเพาะพันธุ์แหล่งยุงลาย อสม. 1,000
7. ทำบุญขึ้นปีใหม่ ธ.ค.50 ทำบุญเลี้ยงพระ ชาวบ้าน 2,000
8. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกันหนาว ม.ค. 51 แจกผ้าห่มกันหนาว อ.จอมพระ 2,000
9. วันผู้สูงอายุ เม.ย.
ของทุกปี รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ อบต. 5,000
10. กิจกรรมออกกำลังกาย ทุกเดือน ออกกำลังกาย สอต.-อสม. 2,000
11. ประเพณีวันสำคัญต่างๆ วันสำคัญ จัดพิธีวันสำคัญต่างๆ ชาวบ้าน 8,000
12. บวชป่าหนองเสม็ด ก.พ.
ของทุกปี ทำบุญตักบาตร ปลูกป่าเสริม ทำแนวกั้นไฟ และประชาสัมพันธ์ในการอนุรักษ์ป่า อบต. 15,000
13. อบต. พบประชาชน ก.พ. 51 ให้ความรู้และรับทราบปัญหาของหมู่บ้าน อบต. -
5.2 บทบาทของนักพัฒนาในการสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้านตามทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
5.2.1 การร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาจากแผนชุมชน
- ร่วมจัดประชาคมทำแผนชุมชนทุกระดับ
- ประสานงานและประชาสัมพันธ์การเข้าถึงแหล่งทุนของกลุ่มเป้าหมาย
- การรณรงค์การไม่ติดสุรา งานศพปลอดเหล้า
- ส่งเสริมและร่วมแก้ไขปัญหาวัยรุ่น โดยส่งเสริมให้มีการเล่นกีฬา การไม่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่
- ส่งเสริมอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน/ครัวเรือน
5.2.2 การร่วมกำหนดอัตลักษณ์ หรือวิสัยทัศน์ของหมู่บ้าน
“หมู่บ้านเป็นพื้นที่หลักในการบูรณาการแก้ไขปัญหาความยากจน เสริมสร้างความมั่นคงภายใน อำนวยความเป็นธรรมทางสังคม รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และเกิดความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ”
5.2.3 การจัดทำพันธกิจของหมู่บ้าน
- บูรณาการและดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยอำนวยการบริการราชการ ทุกภาคส่วน
- เสริมสร้างการอำนวยความเป็นธรรม ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม
- ส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริการประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
- เสริมสร้างความมั่นคงภายใน พัฒนางานข่าวกรอง และโครงข่ายการสื่อสารรวมทั้งการแก้ไขปัญหา สถานะและสิทธิของบุคคลที่ยังไม่มีสถานภาพที่ชัดเจน
- จัดระเบียบหมู่บ้าน/ชุมชน และบูรณาการแก้ไขปัญหาหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง
- สนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอ
5.2.4 การจัดทำยุทธศาสตร์ของหมู่บ้าน
- การแก้ไขปัญหาความยากจน
- การพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
- การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
- เพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงภายใน และความสงบเรียบร้อย
- การบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
6. อัตลักษณ์และตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน แนวทางการพัฒนาอาชีพ
6.1 ผลการวิเคราะห์ภาพรวมของหมู่บ้านในการค้นหาจุดเด่น
อัตลักษณ์ ตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน ตำแหน่งการพัฒนาอาชีพหมู่บ้าน
ป่าชุมชน ส่งเสริมและอนุรักษ์ป่าชุมชนได้มีความอุดมสมบูรณ์ ศูนย์การพัฒนา ศึกษาดูงานป่าชุมชน
6.2 แนวทางการพัฒนาอาชีพของหมู่บ้าน
1) ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์
2) ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน
3) การแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าจากหมอนไหม
4) การส่งเสริมสนับสนุนผลผลิตจากการเกษตร
5) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า OTOP
6) การส่งเสริมและหาตลาดรองรับผลิตภัณฑ์ในชุมชน
7) พัฒนาการทอผ้าไหม
8) ส่งเสริมการปรับปรุงและพัฒนาดินให้มีคุณภาพ
9) ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้รับมาตรฐาน
10) ส่งเสริมการผลิตเพื่อการฝาก-ออม
11) ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ
7. ข้อเสนอแนะของนักพัฒนา ต่อการพัฒนาหมู่บ้าน
7.1 การวิเคราะห์จุดแข็ง(ศักยภาพ)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น ผู้นำ , กลุ่มองค์กร ,เครือข่าย, ทุน ฯ )
1. ผู้นำมีการทำงานที่ดีในการปฏิบัติงานและมีหลักการในการทำงาน
2. ชุมชนมีการรวมกลุ่ม สามารถบริหารจัดการที่เข้มแข็ง
3. มีกองทุนให้กู้ยืมประกอบอาชีพ มีการรวมกลุ่ม
4. มีการรวมกลุ่ม ฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมคิด ร่วมทำ
5. ส่งเสริมเศรษฐกิจแบบพอเพียง สนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์
6. กลุ่มองค์กรมีการประสานการทำงานที่ดี
7. ในการทำงานหรือโครงการมีทุนสนับสนุนทุกหน่วยงาน หรือทุกโครงการ
8. ชุมชนใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
7.2 การวิเคราะห์จุดอ่อน(ปัญหา)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น หนี้สิน ,ต้นทุนการผลิต, แหล่งน้ำ ฯ )
1. ปัญหาความยากจน มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก
2. ปัญหาไม่มีเงินที่จะชำระหนี้สิ้น
3. ผลผลิตทางการเกษตรไม่ดี ประสบปัญหาภัยแห้งไม่มีน้ำ
4. ขาดความรู้ ความสามารถ ด้อยโอกาสทางการศึกษา
5. แหล่งน้ำการเกษตรขาดแคลนและไม่สามารถนำน้ำจากลุ่มน้ำมาใช้ในการทางการเกษตรอย่างเพียงพอ
6. มีเงินทุนในการทำโครงการของหมู่บ้านมีน้อยไม่เพียงพอ
7. ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ในการทำงานและการประกอบอาชีพ
8. ต้นทุนในการทำทางการเกษตรสูง (ปุ๋ย/อุปกรณ์)
7.3 การวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาของหมู่บ้าน
1. รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนได้ทำโครงการต่างเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและสร้างรายได้และลดรายจ่าย เช่นโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดี มีสุข
2. รัฐบาลส่งเสริมด้านการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้มีราคาที่เหมาะสมไม่ตกต่ำจนเกินไป
3. รัฐบาลต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้ความรู้และงบประมาณในด้านการผลิตพลังงานทดแทน เช่น ไบโอดีเซล
4. รัฐบาลออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ที่ครอบครองในที่ดินทำกินที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์
7.4 บทบาทของนักพัฒนา ที่จะสนับสนุนในอนาคต
1. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาหรือแก้ปัญหาต่างๆในชุมชน
2. องค์กรส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณให้ชุมชนน้อย
3. สร้างเครือข่ายองค์กร เครือข่ายการเรียนรู้ชุมชน
4. สนับสนุนและจัดตั้งศูนย์ประสานองค์การชุมชน
8. คณะทำงานจัดทำรายงานการประเมินพัฒนาหมู่บ้าน
1. ชื่อนายเทพ แสนกล้า ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
2. ชื่อนายบำเหน็จ สายน้อย ตำแหน่ง ประธานกองทุนหมู่บ้าน
3. ชื่อนายไพร สุขสนิท ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
4. ชื่อนางทิพนาก สุขสนิท ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
5. ชื่อนายคุณากร สมพร ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
6. ชื่อนางประเย็น สมพร ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
7. ชื่อนางสาวจิราพร บรรเทิงใจ ตำแหน่ง อช.
8. ชื่อนายยา แก้วฉลาด ตำแหน่ง ประธานประชาคม
9. ชื่อนายเอือม สายกระสุน ตำแหน่ง กรรมการ
10. ชื่อนายเม้า แสนกล้า ตำแหน่ง กรรมการ
11. ชื่อนายชอบ แสนกล้า ตำแหน่ง กรรมการ
12. ชื่อนายทุม เสนาบูรณ์ ตำแหน่ง ปราชญ์ชาวบ้าน
13. ชื่อนายเชียร แสนกล้า ตำแหน่ง อสม.
14 ชื่อนางสุดใจ ดาทอง ตำแหน่ง อสม.
15. ชื่อนางสาวสุดารัตน์ แสนกล้า ตำแหน่ง อสม.
ที่ปรึกษา
นายเจน ยินดีรัมย์ พัฒนาการอำเภอจอมพระ
ผู้เขียน/ผู้เรียบเรียง
1. นายไพฑูรย์ คล้ายบุญ นักพัฒนาชุมชน 6
2. นางจันทร์เพ็ญ ชิณภา นักพัฒนาชุมชน 6
3. นางสุภาภรณ์ ไวแสน นักพัฒนาชุมชน 6ว
4. นายทรงราช ญาณอุบล นักพัฒนาชุมชน 4
5. นางสาวปรียาภรณ์ พรหมพินิจ นักพัฒนาชุมชน 3
ผู้พิมพ์/ภาพประกอบ
นางสาวปรียาภรณ์ พรหมพินิจ นักพัฒนาชุมชน 3
9. ภาคผนวก/รายงานประชาคมประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน
ระเบียบวาระการประชุมประชาคมหมู่บ้านเพื่อประเมินการพัฒนาหมู่บ้านปี 2551
บ้านหนองยาว หมู่ที่ 7 ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ
วันที่ 23 เดือน มีนาคม พ.ศ.2551
เริ่มประชุม เวลา 19.00 น.
เมื่อที่ประชุมพร้อม นายเทพ แสนกล้า ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวเปิดการประชุมประชาคมคณะทำงานประเมินสถานการพัฒนาหมู่บ้าน โดยได้ทำการนับองค์ประชุม มีตัวแทนครัวเรือน เข้าร่วมประชุม จำนวน 45 คน จากครัวเรือนทั้งหมด จำนวน 51 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 88.23 ถือว่าครบองค์ประชุม จึงดำเนินการตามระเบียบวาระดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ
1. การจัดประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในการประเมินสถานะการพัฒนาของหมู่บ้าน ซึ่งมีคณะทำงานจัดทำรายงานประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน จำนวน 15 คน เป็นผู้ร่างขึ้น
2. ความสำคัญในการประเมิน ประธานแจ้งที่ประชุมทราบว่า การประเมินการพัฒนาหมู่บ้านเป็นสิ่งที่ชุมชนของเรา สามารถทำการวิเคราะห์ ทำความรู้จักตนเอง รู้จักชุมชน คิดหาแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านเราโดยตัวเราเอง โดยเราจัดทำรายงานนี้ ถือว่าเป็นการสรุปข้อมูลหมู่บ้านในรอบ หนึ่งปี ที่เกิดงานเกิดกิจกรรมและสามารถใช้เป็นเครื่องมือให้พวกเราช่วยกันพัฒนาตนเอง ที่สำคัญให้พวกเรารู้ว่า เรามีทุน เรามีอาชีพอะไรที่เป็นพื้นฐาน เรามีที่ท่องเที่ยว มีสินค้าพื้นเมือง หรือเรามีปราชญ์ชาวบ้าน ทีมีคุณค่าอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องมาดูว่า ในอีก5 -10 ปี ข้างหน้าเราจะเอาสิ่งเหลานี้มาสร้างรายได้ให้กับพวกเราได้อย่างไร อันนี้ เรียกว่า "ตำแหน่งของชุมชน" เราต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาสร้างรายได้
ที่ประชุม มีมติรับรอง
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเสนอที่ประชุมพิจารณา
1. ประธานนำร่างแบบรายงานผลการประเมิน มาอ่านให้ที่ประชุมได้ทราบ และร่วมกันพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ให้ที่ประชุมทำการปรับปรุง แก้ไขได้ตามความเห็น และเหตุผลของที่ประชุม จนครบทุกประเด็น ประธานจึงได้สอบถามมติที่ประชุม ว่ารับรองหรือไม่
มติที่ประชุม ออกเสียงรับรอง จำนวน 45 คน ออกเสียงไม่รับรอง จำนวน - คน
มติที่ประชุม รับรอง
ปิดประชุม เวลา 21.00 น.
(ลงชื่อ) คุณากร สมพร ผู้บันทึกการประชุม
( นายคุณากร สมพร )
(ลงชื่อ) ยา แก้วฉลาด ผู้ตรวจรายงานการประชุม
( นายยา แก้วฉลาด )
วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)